4 สิ่งที่ได้เห็นจากเกม แมนยูฯ ซัดแหลก บอร์นมัธ - ไทยรัฐ

gamesworldpc3.blogspot.com

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่มเอาชนะ บอร์นมัธ ไปขาดลอย 5-2 และนี่คือ 4 สิ่งที่ได้เห็นจากเกมนี้

1. รูปเกม

ต้องบอกเลยว่ารูปเกมนั้นสนุกตั้งแต่ครึ่งแรก แต่เป็นบอร์นมัธที่ได้ประตูนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 16 จากความยอดเยี่ยมของ จูเนียร์ สตานิสลาฟ ที่แตะบอลลอดขากองหลังค่าตัวแพงอย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ ก่อนยิงยัดเสาแรกผ่าน ดาบิด เดเคอา เข้าไปเลย จากนั้นนาทีที่ 29 แมนยูฯ ไม่ยอมง่ายๆ ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จากการตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อของ เมสัน กรีนวูด และก่อนจบครึ่งแรก นาทีที่ 45+2 อองโตนี มาร์เชียล ก็มาปั่นโค้งๆ พาปิศาจแดงนำห่าง 3-1 และในช่วงครึ่งหลังเกมยังคงเข้มข้น นาทีที่ 49 บอร์นมัธได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอริก ไบญี ทำแฮนด์บอล และเป็น โจชัว คิง ยิงเข้าไปให้บอร์นมัธไล่มาเป็น 2-3 อย่างไรก็ตาม แมนยูฯ ยังคงครองเกมบุกใส่ทีมเยือน กระทั่งนาทีที่ 54 แมนยูฯ หนีเป็น 4-2 จากการยิงด้วยขวาของ เมสัน กรีนวูด เจ้าเก่า ก่อนที่ บรูโน เฟอร์นันเดส จะกดฟรีคิกสุดสวยปิดกล่องให้ยูไนเต็ดชนะไป 5-2

2. เกมรุกปัง-เกมรับพัง

นัดนี้เกมรุกของ ปิศาจแดง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่แดนกลาง จากการปั้นเกมของ บรูโน เฟอร์นันเดส และ พอล ป็อกบา รวมถึง 3 แดนหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี มาร์เชียล และ เมสัน กรีนวูด เดินหน้าบดขยี้เข้าใส่คู่แข่งได้อย่างดุดัน และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ซึ่งเกมนี้เราได้เห็นทั้งการทำประตูด้วยทั้งเท้าซ้ายและขวาของ เมสัน กรีนวูด, ได้เห็นการยิงฟรีคิกของ บรูโน เฟอร์นันเดส และที่สำคัญ อองโตนี มาร์เชียล ที่แม้โอกาสยิงจะไม่มาก แต่สุดท้ายก็ทำได้ 1 ประตู แบบสวยๆ อย่างไรก็ตาม เกมรับยังคงมีปัญหา แฮร์รี แม็คไกวร์ พลาดอีกแล้วหลังโดน จูเนียร์ สตานิสลาฟ แตะบอลลอดขาไปยิงยัดเสาแรกตุงตาข่าย ซึ่งจังหวะนี้ ดาบิด เดเคอา ก็ปิดเสาแรกไม่ดีด้วย ส่วน วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ก็โหม่งวืดในจังหวะก่อนเสียประตูแรก ขณะที่ เอริก ไบญี ที่ลงมาเป็นสำรองแทน ลินเดเลิฟ ตั้งแต่ต้นครึ่งหลังก็เล่นไม่ละเอียด จนทีมเสียจุดโทษ จะมีฟอร์มดีก็คือ ลุค ชอว์ กับ อารอน วาน บิสซากา แต่รายหลังก็มีส่วนต้องรับผิดชอบกับจังหวะเสียประตูแรกด้วยเช่นกัน เพราะไม่รีบเข้าไปบล็อกให้เร็ว และไม่รีบเข้าไปช่วยซ้อนให้ แม็คไกวร์ ในจังหวะต่อเนื่อง

3. กรีนวูดปล่อยของ

ฟอร์มฮอตจนฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับ เมสัน กรีนวูด วัย 18 ปี จากการทำไป 2 ประตูในนัดล่าสุด ทำให้เขาซัดไปแล้ว 8 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 26 นัดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ แต่ถ้านับรวมทุกรายการ กระหน่ำไปแล้ว 15 ประตู โดยหลังจบเกม โซลชาร์ ให้สัมภาษณ์ว่า “กรีนวูด คือจอมถล่มประตูที่ยอดเยี่ยม เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากๆ เราจะดูแลและจัดการเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้” เชื่อว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญของปิศาจแดงไปอีกหลายปี

4. เดินหน้าลุ้นท็อปโฟร์

จากชัยชนะในนัดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 55 คะแนน แซงเชลซี ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ชั่วคราว แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เชลซี สามารถเปิดบ้านเอาชนะ วัตฟอร์ด ได้สำเร็จ 3-0 ส่งผลให้ เชลซี ทวงคืนอันดับ 4 ได้สำเร็จ โดยมีคะแนนมากกว่าปิศาจแดงอยู่ 2 คะแนน จากการลงเล่น 32 นัดเท่ากัน ดังนั้นการแย่งโควตาแชมเปียนส์ลีก จะยังคงเข้มข้นไปจนถึงช่วงท้ายฤดูกาลอย่างแน่นอน